ประวัติคุณหมอณรงค์ พุ่มโพธิ์งาม

ประวัติคุณหมอณรงค์ พุ่มโพธิ์งาม ต้นตำรับสมุนไพรจีน
ในอดีตเมื่อตอนคุณหมออายุประมาณ 12 ปี คุณพ่อคุณแม่ได้สนับสนุนให้ได้รับการศึกษาร่ำเรียน โดยหวังว่า เมื่อมีวิชาเพียงพอแล้วจะให้คุณหมอณรงค์ประกอบอาชีพค้าขาย เมื่อว่างจากการเรียน หรือวันหยุดเรียน คุณหมอจะถูกส่งไปเรียนรู้หาประสบการณ์ทางการค้าขาย โดยให้ไปเป็นลูกจ้างร้านขายยาแห่งหนึ่งย่านเยาวราช ที่ขายทั้งยาแผนปัจจุบันและแผนโบราณ มีหน้าที่หยิบยาขายตามใบสั่งของหมอ นับว่า เป็นความโชคดีของคุณหมอณรงค์ที่ได้มาทำงานที่ร้านขายยาแห่งนี้ เพราะมีชาวจีนเป็นแพทย์แผนโบราณประจำร้าน ทำให้ได้ประสบการณ์การจัดยาแผนโบราณให้แก่ผู้ป่วยเป็นอย่างมาก คุณหมอณรงค์ได้ทำหน้าที่ขายยามาตั้ง แต่เรียนอยู่ชั้นประถม จนจบชั้นมัธยม ก็ไม่ได้เรียนต่อหรือประกอบอาชีพอย่างอื่นอีกเลย คงทำงานอยู่ที่ร้านขายยาอย่างต่อเนื่อง นานถึง 25 ปี ในช่วงเวลานี้คุณหมอณรงค์มีโอกาสพบปะพูดคุยและจัดยาให้กับผู้ป่วยนับพันนับ หมื่นคน จนมีความรู้ความชำนาญในการจัดยาให้คนไข้ โดยแทบไม่ต้องดูใบสั่งหมอเลยก็ว่า ได้ จากการทำหน้าที่และประสบการณ์อันยาวนึ้ได้ก่อให้เกิดจิตสำนึกของความเป็นหมอ เป็นผู้รักษาผู้ป่วย และได้ครุ่นคิดอยู่เสมอว่า จะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยคนที่ป่วยเป็นโรคต่างๆ ให้หายเป็นปกติโดยเร็ว หรือวิธีไหนบ้างที่จะทำให้คนเรามีสุขภาพแข็งแรง ไม่ป่วยเป็นโรคได้ง่าย ในที่สุดคุณหมอก็ตัดสินใจลาออกจากร้านขายยา เพื่อเดินทางไปศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณที่ประเทศจีน.   เป็นความโชคดีหรือเป็น เพราะกุศลจิตของคุณหมอก็ไม่ทราบได้ คุณหมอได้มีโอกาสพบแพทย์แผนโบราณ  ผู้เชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงของประเทศจีน ท่านหนึ่ง ซึ่งบรรพบุรุษของท่านเป็นหมอหลวงประจำราชสำนักสมัยราชวงศ์เช็งเรื่อย มาจนถึงสมัยพระนางซูสีไทเฮา ท่านได้ถ่ายทอดวิชาแพทย์แผนโบราณให้กับหมอณรงค์อย่างจริงจัง ด้วยเห็นว่า หมอณรงค์มีจิตปรารถนาที่ดีและมีความจริงจังจริงใจที่จะศึกษาวิชานี้ และด้วยเหตุว่า ลูกหลานของแพทย์จีนท่านนั้น ไม่มีผู้ใดสนใจรับการถ่ายทอดวิชานี้เพื่อสืบทอดไปในอนาคตเลย ด้วยความตั้งใจจริงของคุณหมอณรงค์และประสบการณ์ของคุณหมอที่คร่ำหวอดอยู่กับ ยาแผนโบราณมานานกว่า 25 ปี 
หลักสูตรที่ต้องใช้เวลาเรียนรู้ถึง 3 ปี แต่คุณหมอกลับใช้เวลาเรียนเพียง 5 เดือน ก็เรียนสำเร็จ เป็นที่ชื่นชมของอาจารย์เป็นอย่างยิ่ง  หลังจากนั้นคุณหมอกลับมาให้บริการรักษาคนไข้ในประเทศไทย เมื่อประมาณ 32 ปี ก่อนที่อาคารพาณิชย์ของบิดาในศูนย์การค้าวรรัตน์ เขตยานนาวาระยะแรกมีผู้ป่วยมารับการรักษาไม่มาก แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณหมอณรงค์เริ่มเป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับมากขึ้น เพราะมีผู้ป่วยที่สิ้นหวังจากการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันหลายราย มารับการรักษาจากคุณหมอณรงค์และหายขาดจากการเจ็บป่วย หลายรายมีชีวิตยืนยาวจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ยาบำรุงและยาป้องกันโรคของหมอณรงค์ยังเป็นที่รู้จักและยอมรับจากบุคคลสำคัญ และมีชื่อเสียงในสังคมหลายท่าน อาทิเช่น พระองค์เจ้าอนุสรณ์มงคลการ นายสมพร กลิ่นพงษา(อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย), นายพิชัย รัตตกุล(อดีตรองนายกรัฐมนตรี) นายเทอดพงษ์ ไชยนันท์(อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายก) นายอุกฤษณ์ มงคลนาวิน(อดีตประธานรัฐสภา) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก(อดีตอธิบดีกรมตำรวจ)  หลวงพ่อคูณวัดบ้านไร่
ฮั้วลักเซียม ดีอย่างไร?
ท่านที่เป็นโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ อยู่และรักษาด้วยการรับประทานยาแพทย์แผนปัจจุบันมานานแต่ยังไม่หายเป็นปกติ หรือบางโรคก็ดีขึ้น บางโรคทานยาอย่างไร ก็ยังเหมือนเดิม บางโรคแย่ลงหรือทรุดลงไปเรื่อยๆ และเมื่อท่านรักษาด้วยยาแผนปัจจุบันมากๆ เป็นเวลานาน ยาแผนปัจจุบันบางชนิด เมื่อทานมากๆ จะไปทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกาย และอวัยวะภายใน เช่น ตับไต กระเพาะอาหาร จะทำงานหนักจนเกินไป และเสื่อมสภาพลง ยาแผนปัจจุบันบางชนิดจะทำให้กระดูกเสื่อมหรือผุด้วย.
ฉะนั้น ผม หมอณรงค์ พุ่มโพธิ์งาม จึงขอแนะนำให้ท่านที่มีปัญหาสุขภาพต่างๆ ทุกท่านหันมาทำการรักษาด้วยสมุนไพรจีน หรือ สมุนไพรเสริมอาหารควบคู่กันไปอีกทางหนึ่ง อาการโรคต่างๆ และ เมื่อต้นเหตุดี ปลายเหตุก็จะดี ขึ้นตามลำดับ อีกทั้งสมุนไพรจีนไม่มีพิษภัยและไม่ส่งผลข้างเคียงที่ไม่ดีต่อร่างกายและอวัยวะภายใน
เมื่อท่านตัดสินใจที่หันมารักษาโรคภัยที่เป็นอยู่ด้วยสมุนไพรแล้ว บังเอิญโรคประจำตัวที่ท่านเป็นอยู่ อาทิเช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ หัวใจโต โรคอัมพฤกษ์ โรคอัมพาต โรคไต โรคไขข้อ โรคเก๊าต์ โรคหอบหืด โรคปวดหัวไมเกรน โรคถุงลมโป่งพอง โรคสตรีต่างๆ และอื่นๆ ที่สำคัญท่าน อย่า! เลิกการรักษาด้วยการทานยาแผนปัจจุบัน ให้ท่านรักษาโดยทานควบคู่กันไป ระหว่างยาแผนปัจจุบันกับยาน้ำสมุนไพรจีน ซึ่งจะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ แล้วเมื่อเวลาที่หมอปัจจุบันนัด ท่านก็ไปตามนัด พอแพทย์ท่านตรวจร่างกายแล้วพบว่าอาการของท่านดีขึ้น ก็จะเลิกทานยาแผนปัจจุบันเอง อย่างเช่น ก่อนที่จะมารับประทานยาสมุนไพรจีน คนไข้มีอาการปวดหลัง แต่ปัจจุบัน หลังจากได้ทานยาสมุนไพรจีนแล้ว ไม่ปวดหลัง จะทานยาแก้ปวดทำไม? แต่ก่อนมีอาการเป็นภูมิแพ้ ไซนัส แต่หลังจากทานยาสมุนไพรจีนแล้วปัจจุบันไม่มีอาการแล้ว จะทานยาแก้ภูมิแพ้ ไซนัส ทำไม? หรืออาการต่างๆ ดีขึ้น. สุขภาพแข็งแรงแล้ว เราจะทานยาแผนปัจจุบันทำไม?                                               
แต่มีโรคอยู่ 2 ชนิด ที่ไม่ควรเลิกทานยาแผนปัจจุบัน แม้ท่านหันมาทานยาน้ำสมุนไพรจีนแล้วก็ตาม  นอกนั้นสามารถเลิกยาแผนปัจจุบันได้ ถ้าอาการดีขึ้นมากแล้ว หรือแพทย์สั่งงดทาน                  
ชนิดที่ 1 คือ ความดันโลหิตสูง ท่านที่เป็นโรคนี้แล้ว ไม่ควรเลิกทานยาแผนปัจจุบัน จนกว่าความดันจะปกติ งดอาหารรสเค็ม และออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ อาการความดันจะดีขึ้นโดยทานยาสมุนไพรจีนควบคู่ไปด้วย (ใน 100 คน มี 95 คน มีความดันเทียมหายขาด อีก 5 คน ความดันแท้ไม่หายขาด) เหนื่อยเหงื่อออก อย่าพึ่งอาบน้ำ เส้นเลือดสมองจะแตก             
ชนิดที่ 2 คือ โรคเบาหวาน ที่เป็นโรคนี้ไม่หายขาด ถ้าหากเกิดจากตับอ่อนพิการ หรือไม่ทำงาน เพราะตับอ่อนจะไม่สามารถผลิตอินซูลีน มาควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด.                    

เบาหวาน จะหายขาดได้ ที่สำคัญจะต้องยึดหลักปฏิบัติ 4 ประการ
1.ท่านต้องทานยาแผนปัจจุบัน ประมาณครึ่งเม็ด ถึง 1 เม็ด เพื่อเข้าไปแปลงอินซูลีนมาควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด (คิดเป็น 25%)                                                                             
2.ท่านต้องทานยาสมุนไพรจีน เพื่อเป็นการเสริมสร้างพลัง หรือสร้างภูมิต้านทานป้องกันโรคแทรกซ้อนทำให้สุขภาพแข็งแรง (คิดเป็น 25%)                                                               
3.ท่านต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทั้งเช้าและเย็น ยิ่งดี (คิดเป็น 25%)                            
4.ท่านต้องควบคุมอาหาร ควรหลีกเลี่ยงอาหารมันๆ เช่น ขาหมู ไข่แดง ปลาหมึก หอยนางรม ทุเรียน ลิ้นจี่ ลำไย ทองหยอด ฝอยทอง กะทิ คอฟฟี่เมต และอาหารที่ทำจากแป้ง (คิดเป็น 25%)


รวม4ประการเป็น 100% อายุท่านจะยืนยาวเบาหวานจะดี                                                        
ถ้าท่านหันมาดื่มสมุนไพรจีนแล้ว ไม่สร้างความผิดหวังให้กับท่าน ได้อย่างแน่นอน และที่สำคัญ สมุนไพรจีนไม่มีสารตกค้าง  
โรคต่างๆ ค่อยๆ เกิดสะสมทีละนิด เมื่อเรารู้ ก็เป็นเยอะแล้ว บางโรค เมื่อรู้ก็เสียชีวิตแล้ว ดังนั้น เราจึงต้องหาวิธีป้องกันไว้ก่อน เช่น ออกกำลังกาย ดื่มยาสมุนไพรจีน กินอาหารให้ครบ 5 หมู่” 




                               ด้วยความปรารถนาดี จาก คุณหมอณรงค์ พุ่มโพธิ์งาม                             


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น